TODO
- ใช้ Blender 2.5 อ้างอิงแทน การ upload screenshot ควรระบุเวอร์ชันให้ชัดเจน
- ไว้เนื้อหานิ่งแล้วค่อยทำส่วน footer สำหรับหน้าก่อน/หน้าต่อไป
- เพิ่มส่วนเกม
- ยุบรวมส่วน Blender เข้ากับส่วน 3D computer graphics โดยเพิ่มส่วน User Interface แยกไว้เป็นบท Blender 101
1) การใช้งานซอฟต์แวร์เบลนเดอร์ (Blender 101)
- ระบบหน้าต่างและสกรีน (Screens & windows)
- การจัดการมุมมองใน 3D View
- แผงควบคุมใน Buttons Window
- พื้นฐานทางคณิตศาสตร์ที่ผู้อ่านควรให้ความสนใจ
- วัตถุ (Object)
- พื้นผิวในสามมิติ
- ระบบพิกัด (Coordinate system)
- ทิศทาง (Orientation)
- มุมออยเลอร์ (Euler angles)
- ควอเทอร์เนียน (Quaternion)
- เปอร์สเป็คทีฟ (Perspective)
- วัสดุและพื้นผิว (Material and texture)
- Shading
- เทกซ์เจอร์ (Texture)
- ยูวี (UV Mapping)
- การสะท้อนแสง (Reflection)
- ความโปร่งแสงและความโปร่งใส (Transparency)
- การหักเหแสง (Refraction)
3) ส่วนต่อประสานกราฟิกกับผู้ใช้ (GUI)
- โมเดล
- ก้อนโพลีกอน (Mesh)
- Non-uniform rational B-spline (NURBS)
- เส้นโค้ง (Curve)
- ข้อความ (Text)
- เมตาบอล (Meta)
- กล้องถ่ายภาพ (Camera)
- แสงไฟชนิดต่างๆ (Lamp)
- object เปล่า (Empty)
- ลำดับชั้นของ object (Parent/Child hierarchy)
- การบริหาร object ด้วย outliner
- การจัดเลเยอร์ของ object (Layer)
- การจัดกลุ่ม object (Group)
- การจัดซีน (Scene)
- การแก้ไข mesh
- กลุ่มของเวอร์เทกซ์ (Vertex group)
- การให้ค่าวัสดุสำหรับ mesh เบื้องต้น (Basic material)
- การใช้ modifier
- การใช้ Mirror Modifier ให้วัตถุสมมาตร
- การใช้ Subsurf Modifier ทำวัตถุเรียบมน
- การใช้ Array Modifier สร้างวัตถุซ้ำและจัดเรียง
- การใช้ Displace Modifier ปรับพื้นผิววัตถุด้วย texture
- การขึ้นโมเดลโดยใช้วิธีปั้น (Digital sculpting)
- การสร้างผมและขน (Hair/fur)
- กล้อง (Camera)
- การจัดแสงไฟ (Lighting)
- การควบคุมสิ่งแวดล้อม (World)
- การใช้ภาพจากการเรนเดอร์
- การคอมโพสิตภาพด้วยโหนด (Node compositing)
- การเรนเดอร์ด้วยซอฟต์แวร์เสริม
- การเรนเดอร์ภาพด้วยซอฟต์แวร์ YafRay
- การเรนเดอร์ภาพด้วยซอฟต์แวร์ LuxRender
- การเรนเดอร์ภาพแนวลายเส้นด้วย Freestyle
7) การจัดการวัสดุ (Material)
- การระบายสีเวอร์เทกซ์ (Vertex painting)
- การจัดการพื้นผิววัสดุ (Texture)
- การใช้ UV ควบคุมการ map texture
- การระบายสี texture (Texture painting)
- การเพิ่มรายละเอียดพื้นผิวโดยค่า normal (Normal map)
- การหักเหและการสะท้อนแสงของวัสดุ
- วัสดุสะท้อนแสงแบบกระจก (Mirror)
- วัสดุแบบโปร่งใส (Transparency)
- วัสดุแบบโปร่งแสง (Sub-surface Scattering/SSS)
- วัสดุแบบ volume (Volumetric)
- การปรับแต่งวัสดุด้วยโหนด (Node material)
- ลำดับภาพ (Key frame)
- การใช้กราฟควบคุมการเคลื่อนที่ (IPO)
- การใช้กระดูกบังคับการเคลื่อนไหว (Armature)
- การใช้ shape key คุมการเปลี่ยนแปลงรูปร่าง
- การควบคุมกระดูกและ shape key (Action Editor)
- การตัดต่อลำดับภาพ (NLA Editor)
ส่วนต่อประสานกราฟิกกับผู้ใช้ (GUI)[]
ผู้ใช้สามารถควบคุมการทำงานของโปรแกรม Blender ด้วยเมาส์ (mouse) และคีย์บอร์ด (keyboard) ได้เช่นเดียวกับโปรแกรมอื่นๆทั่วไป นอกจากนี้ Blender ยังรองรับอุปกรณ์อื่นๆเช่น stylus tablet ที่มีความละเอียดสูงกว่าเมาส์ อย่างไรก็ตาม ระบบติดต่อผู้ใช้ หรือ User Interface (UI) ของ Blender ถูกออกแบบมาโดยปรัชญาการออกแบบที่แตกต่างจากซอฟต์แวร์ทั่วๆไป โดยเฉพาะในระบบจัดการหน้าต่างที่ออกแบบมาให้วางโดยไม่ซ้อนทับกัน กล่าวคือ เมื่อผู้ใช้เรียกโปรแกรม Blender ขึ้นมาทำงาน ผู้ใช้จะพบกับหน้าต่างหลักหรือสกรีน (Screen) ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมดที่ผู้ใช้มองเห็น ประกอบด้วยหน้าต่างย่อยๆ (window หรือบ้างก็เรียกว่า space) อยู่ภายใน โดยหน้าต่างย่อยที่ไม่ซ้อนทับกันเองนี้จะแสดงเนื้อหาแตกต่างกัน ขึ้นกับ window type หรือชนิดของหน้าต่างนั้นๆ ทั้งนี้ผู้ใช้สามารถ
- ปรับเปลี่ยนชนิดของหน้าต่างแต่ละหน้าต่างให้เป็นแบบที่ผู้ใช้ต้องการ (ด้วยปุ่มกำหนดชนิดหน้าต่างบริเวณมุมของหน้าต่าง)
- หรือจะปรับขนาด
- แบ่งสร้างหน้าต่างเพิ่ม
- ยุบหน้าต่างรวมกัน
เพื่อปรับรูปแบบหรือ layout ให้เหมาะสมกับการใช้งานก็ได้ การใช้งานโปรแกรม Blender ควรเริ่มจากการทำความเข้าใจระบบหน้าต่างนี้เป็นสำคัญ