ภาพอ้างอิง[]
คุณลักษณะของ 3D View[]
การปรับมุมมอง[]
ด้วย Mouse[]
การปรับมุมมองใน 3D View ใช้การผสม M กับการกดปุ่ม Shift และ Ctrl
- M ใช้ในการหมุนมุมมองไปมา
- Ctrl +M ลากเมาส์ขึ้นลง ใช้ซูมมุมมองเข้าออก
- Shift +M แพนมุมมองไปมาโดยไม่หมุน
ด้วย Keyboard[]
- 0 ภาพจากกล้องตัวที่กำลัง active
- 1 ภาพด้านหน้า ตามแนวแกน Y-+ ร่วมกับ Shift เพื่อแสดงด้านตรงข้าม
- 3 ภาพด้านข้าง ตามแนวแกน X+- ร่วมกับ Shift เพื่อแสดงด้านตรงข้าม
- 7 ภาพด้านบน ตามแนวแกน Z+- ร่วมกับ Shift เพื่อแสดงด้านตรงข้าม
- 5 สลับระหว่างมุมมองแบบ perspective กับ orthographic
- 4|6 วนรอบซ้าย|ขวา
- 8|2 วนรอบขึ้น|ลง
- Ctrl +4|6|8|2 แพนซ้าย|ขวา|ขึ้น|ลง
- +|- ซูมเข้า|ออก
- Enter ล้างค่าซูม
การเลือกสิ่งต่าง ๆ ใน 3D View[]
ผู้ใช้สามารถเลือกสิ่งต่าง ๆ ใน 3D View ได้หลายวิธี โดยทั่วไปจะใช้ R แต่ผู้ใช้อาจตั้งค่าการเลือกใน User Preferences ให้มาใช้ L ในการเลือกแทนก็ได้ โดยทั่วไปการเลือกจะมีวิธีการดังต่อไปนี้
การเลือก/ไม่เลือกทั้งหมดโดยกด A []
ถ้ามีสิ่งที่ถูกเลือกอยู่ก่อนแล้ว การกด A จะเป็นการยกเลิกการเลือก แต่ถ้าไม่ได้เลือกอะไรอยู่เลย การกด A จะเป็นการเลือกทุกอย่างที่สามารถเลือกได้ในขณะนั้น
การสลับเป็นเลือกสิ่งที่ไม่ได้เลือกแทนสิ่งที่ถูกเลือกอยู่[]
หากต้องการสลับการเลือกจากสิ่งที่เลือกอยู่เป็นสิ่งที่ไม่ได้เลือก สามารถใช้คีย์ลัด Ctrl + I
การเลือกโดยใช้ R[]
กด R บนสิ่งที่ต้องการจะเลือกใน 3D View และกด Shift เพื่อเลือกเพิ่มเติมจากสิ่งที่เลือกอยู่แล้ว หากกด Shift +R บนสิ่งที่เลือกอยู่แล้วมักจะเป็นการเลิกเลือกสิ่งนั้น ซึ่งแตกต่างกันออกไปตาม 3D View ที่ทำงานอยู่ เช่นใน Object Mode หาก Shift }+R บน Object ที่เลือกอยู่แล้วแต่ไม่ใช่ตัวที่ active (สีชมพูสว่าง) ก็จะเป็นการทำให้ Object นั้น active ก่อน เมื่อ Shift +R ซ้ำไปอีกครั้งจึงจะเป็นการยกเลิกการเลือก
การเลือก/ไม่เลือกเพิ่มเติมแบบ Border Select โดยการกด B []
ให้กด B ใน 3D View จะเห็น mouse cursor เปลี่ยนเป็น cross hair (รูปเครื่องหมายบวก) ให้ลาก L เพื่อกำหนดพื้นที่สี่เหลี่ยมครอบคลุมสิ่งที่ต้องการจะเลือก ถ้าต้องการยกเลิกการถูกเลือกให้ใช้การลาก R หรือ M แทน L
ใน Edit Mode หากผู้ใช้กด B สองครั้ง mouse cursor จะเปลี่ยนเป็นวงกลมซึ่งสามารถขยาย/ลดขนาดได้โดยการ Scroll วงกลมนี้หากผู้ใช้ลาก L ผ่านสิ่งใดที่เลือกได้จะเป็นการเลือกสิ่งนั้น หากลาก L จะเป็นการยกเลิกการเลือกสิ่งที่ลากผ่าน และกดเมื่อ R จะเป็นการออกจากโหมดการเลือกด้วยวงกลม
การเลือกโดยใช้ Lasso[]
เป็นการเลือกโดยวาดเส้นล้อมกรอบสิ่งที่ต้องการจะเลือก วิธีนี้ทำได้โดยการลาก Ctrl +L เพื่อวาดวงล้อมรอบสิ่งที่ต้องการจะเลือก หากต้องการจะไม่เลือกให้กด Shift + Ctrl +L แทนการลากในลักษณะเดียวกัน
โหมดการทำงาน[]
โหมดการทำงานของ 3D View มีอยู่หลายโหมด และมีหน้าที่คร่าว ๆ ดังนี้
- Object Mode : ใช้ย้ายที่หมุนปรับขนาด Object
- Edit Mode : ใช้แก้ไขรายละเอียด Object บางชนิด เช่นการแก้ไข Mesh
- Sculpt Mode : ใช้ปั้น Mesh
- Vertext Paint : ลงสี vertex
- Texture Paint : ลงสี/วาด texture
- Weight Paint : ลงน้ำหนักให้ skin กระดูก
- Particle Mode : ใช้จัดการข้อมูล particle
- Pose Mode : ใช้ปรับท่ากระดูก
โดยในส่วน Header ของ 3D View มีส่วนที่ใช้ในการเปลี่ยนโหมดการทำงาน (ดูภาพอ้างอิง 1) หรืออาจะเปลี่ยนเข้าออกระหว่างโหมดต่างๆด้วยคีย์ลัด ได้แก่
- Tab ใช้สลับเข้าออก Edit Mode จากโหมดปัจจุบัน
- Ctrl + Tab ใช้สลับเข้าออก Weight Paint จากบางโหมด
- V ใช้สลับเข้าออก Vertext Paint จากบางโหมด
Layer ของ Object[]
layer มีไว้ใช้แบ่ง Object ออกเป็นส่วน ๆ หรือไว้ใช้เลือก/ซ่อน Object บางส่วนที่ยังไม่ต้องการการใช้งาน ใน Blender แต่ละ Object จะสามารถอยู่ใน layer ได้ตั้งแต่ 1-20 layer (แต่ละ Object สามารถอยู่ในมากกว่า 1 Layer) ผู้ใช้สามารถเลือกแสดงผล layer ได้จากบริเวณส่วน Header ของหน้าต่าง 3D View (6 ในภาพอ้างอิง)
ผู้ใช้สามารถใช้ Layer ช่วยจัดการกับ Object ได้ การย้าย Object ข้าม Layer ทำได้โดย
- ใน Object Mode R บน Object เพื่อเลือก Object ที่ต้องการ
- กด M ใน 3D View จะแสดงกล่องสำหรับเลือก Layer ขึ้นมา
- L เพื่อเลือก Layer ที่ต้องการ
- Object หนึ่งๆสามารถอยู่ได้มากกว่า 1 Layer. หากผู้ใช้ต้องการเลือกหลาย Layer ให้กด Shift L เพื่อเลือก Layer โดยไม่ไปยกเลิก Layer ที่ได้เลือกเอาไว้แล้ว.
- การแสดงผลทีละหลาย Layer ก็คลิกเลือก Layer ตรงส่วน header ของ 3D View ในลักษณะเดียวกัน
คีย์ลัด[]
อาจใช้ F7 หลังจากเลือก Object จะสามารถแก้ไข Layer ของ Object ได้จากพาเนล Draw ซึ่งวิธีนี้จะทำได้แม้ว่าจะไม่ได้อยู่ใน Object Mode
คีย์ลัด 1 ถึง 0 (ไม่ใช่เลขบน numpad) ใช้เลือกเลเยอร์ 1-10 และเมื่อใช้ร่วมกับ Alt จะเป็นการเลือก layer 11-20 และถ้าต้องการเลือกมากกว่า 1 layer ในส่วนนี้ก็สามารถใช้ร่วมกับ Shift ได้เช่นกัน
การปรับเปลี่ยนระยะขนาดและมุมของ Object และ Mesh[]
การย้ายที่ หมุน และปรับขนาดด้วย Keyboard[]
- G เพื่อย้ายที่
- R เพื่อหมุน
- S เพื่อปรับขนาด
เมื่อกดคีย์ลัดแล้วใช้การลากเมาส์ไปมาเพื่อตั้งค่า ใช้ R ยกเลิกการตั้งค่ากลับไปสู่ค่าเดิมก่อนกดคีย์ลัด หากต้องการยืนยันการปรับค่า ให้ใช้ L หรือการกด Enter เพื่อยืนยัน ในระหว่างที่ตั้งค่า ผู้ใช้สามารถอ้างอิงแกนและกำหนดค่าตัวเลขที่ต้องการได้ ทั้งนี้ ในระหว่างที่มีการตั้งค่าตามวิธีข้างต้น ผู้ใช้จะไม่สามารถทำอย่างอื่นนอกจากที่เกี่ยวกับการเลือกแกน, การให้ค่าตัวเลข และการอ้างอิงตาราง grid จนกว่าผู้ใช้จะออกจากโหมดด้วยการตกลงหรือยกเลิกการตั้งค่า
การย้ายที่ หมุน และปรับขนาดด้วย Transform Manipulator[]
Ctrl + Space จะเรียกเมนูเพื่อเปิดปิดเครื่องมือปรับเปลี่ยน ซึ่งมีลักษณะเป็นลูกศร โดยสามารถเลือกโหมดการทำงานได้สามโหมดคือ
- การย้ายที่ ( Ctrl + Alt + G )
- การหมุน ( Ctrl + Alt + R )
- การปรับขนาด ( Ctrl + Alt + S )
โดยผู้ใช้สามารถเลือกโหมดการทำงานได้มากกว่าหนึ่งโหมดพร้อมๆกันด้วยการเลือก Combo จากเมนู หรืออาจเลือกจากปุ่มเลือกโหมดการทำงานบริเวณส่วน header ของหน้าต่าง ด้วยการกด Shift ค้างไว้ขณะเลือก
เมื่อผู้ใช้เปิด Transform Manipulator จะสามารถปรับเปลี่ยนสิ่งที่เลือกอยู่ได้โดยการกด L ลงบนเส้นสีต่างๆในส่วนของ Transform Manipulator ใน 3D View แล้วลากไปตามทิศทางที่ต้องการ ซึ่งตัว Transform Manipulator นี้จะใช้สีแดงแทนแกน X และสีเขียวกับน้ำเงินซึ่งแทนแกน Y กับ Z ตามลำดับ ขณะที่เส้นสีขาวจะหมายถึงทุกแกนรวมกันในโหมดของการปรับขนาด หมายถึงแกนแนวฉากกับมุมมองปัจจุบันในการหมุน และหมายถึงระนาบที่ฉากกับแกนแนวฉากมุมมองในกรณีของการเคลื่อนที่
การย้ายที่ หมุน และปรับขนาดด้วย Transform Properties[]
เมื่อกด N จะมีพาเนล Transform Properties ปรากฏขึ้นใน 3D View ซึ่งผู้ใช้สามารถปรับตำแหน่ง มุมหมุนและขนาดได้ด้วยการกำหนดค่าคงตัว โดยค่า LocX,Y,Z จะใช้ปรับตำแหน่ง RotX,Y,Z ใช้ปรับมุมการหมุน ScaleX,Y,Z ใช้ปรับอัตราส่วนขนาดเมื่อเทียบกับขนาดจริง และ DimX,Y,Z เพื่อใช้กำหนดขนาดที่ต้องการโดยไม่ต้องคำนวณเอาเองจากอัตราส่วน
การย้ายที่ หมุน และปรับขนาดด้วย Gesture[]
เป็นการปรับขนาด หมุน ย้ายที่ Object โดยไม่ต้องใช้คีย์ลัดและ Transform Manipulator (3D View Ctrl Space ) แต่ใช้เพียงการบังคับ Mouse เท่านั้น ซึ่งทำได้โดยการลาก L ใน 3D View เป็นรูป L เพื่อหมุน, ลากสลับซ้ายขวาหรือขึ้นลง เพื่อปรับขนาด และลากเป็นเส้นตรงเพื่อเลื่อนตำแหน่ง นอกจากนี้เมื่อ Object เข้าสู่โหมดที่ต้องการ(โหมดหมุน,เลื่อน,ปรับขนาด)แล้ว ก็สามารถกดค้าง M จะปรากฏเส้นไข่ปลา ลากเมาส์เพื้อบังคับเส้นไข่ปลาให้ชี้ไปทางแกนที่ต้องการ (X เส้นสีแดง Y สีเขียว Z สีน้ำเงิน) เพื่อเลือกแกนที่ต้องการ แล้วจึงปล่อยเมาส์ เบลนเดอร์ก็จะล็อกการปรับวัตถุที่เลือกอยู่เข้ากับแกนนั้นๆโดยอัตโนมัติ (หรือจะใช้วิธีกด X Y Z ตามก็ได้)
การอ้างอิงแกน[]
ผู้ใช้สามารถเลือกปรับเปลี่ยน Object ตามแกนด้วยเครื่องมือข้างต้น หรือกดปุ่ม X Y และ Z หลังจากกดคีย์ลัดเพื่อปรับเปลี่ยน Object ไปในแกนที่ต้องการ เช่นถ้าผู้ใช้ต้องการขยายขนาด Object ตามแนวแกน X ก็สามารถกด S X ใน 3D View แล้วขยับเมาส์พอยเตอร์เพื่อปรับขนาด
นอกจากนี้ด้วยคีย์ลัด ผู้ใช้ยังสามารถอ้างอิงแกนได้มากกว่า 1 แกน เช่นถ้าผู้ใช้ต้องการย้าย Object ไปในระนาบแกน X และ Y แต่รักษาระดับความสูงตามแกน Z ไว้ ก็สามารถทำได้โดยกด G Shift + Z
การใช้ Gesture ก็สามารถอ้างอิงแกนที่ต้องการได้ โดยในโหมด Gesture ผู้ใช้สามารถกด M ค้างไว้จะปรากฏเส้นตรงไข่ปลาสีขาวลากจากจุดอ้างอิง ให้ควบคุมเมาส์บังคับเส้นให้ชี้ไปทางแกนที่ต้องการ พอเห็น Object ล็อกเข้ากับแกนที่ต้องการแล้วก็ปล่อยเมาส์ วัตถุก็จะอ้างอิงกับแกนนั้นๆ
แกนการปรับเปลี่ยน (Transform Orientation)[]
แกนการปรับเปลี่ยน (Transform Orientation) มีหลายโหมดการทำงาน เลือกได้ด้วย Alt + Space หรือจากเมนู (ดูภาพอ้างอิง 5) โดยโหมดต่าง ๆ แบ่งออกเป็น
- Global : ใช้แกน X Y Z ของ World
- Local : ใช้แกน X Y Z ของ Object
- Normal : ใช้แกน X Y Z จากค่าเฉลี่ยของ vertex normal ได้แก่ค่า vertex normal ของ vert เมื่อเลือก vert หรือค่า face normal เมื่อเลือก face ใน Mesh
- View : ใช้แกน X Y Z ของ 3D View โดยแกน Z จะขนานกับเส้นแนวฉากจากระนาบ 3D View บนจอภาพ
- Custom : ผู้ใช้สามารถเพิ่มเติม Orientation โดยอิงกับ Object ใด ๆ ได้ตามความต้องการโดยเรียกจากพาเนล 3D View → View → Transform Orientations เลือก object ที่ต้องการแล้วสั่ง Add โดยตัวเลือกได้มากกว่า 1 รายการ ทั้งนี้ เมื่อได้เพิ่มเป็นรายการแล้วการหมุนเปลี่ยนแปลงของ object ที่เป็นต้นแบบนั้นจะไม่มีผลกับค่าที่ได้เพิ่มไว้
เมื่อทำการปรับเปลี่ยนแบบจำลองโดยใช้คีย์บอร์ด การกด X Y หรือ Z ในครั้งแรกจะยังเป็นการอ้างอิงแกน Global อยู่ ต้องกด X Y หรือ Z อีกครั้งเพื่อล็อกเข้ากับ orientation ที่ได้เลือกไว้ เช่น หากต้องการย้าย Object ตามแกน X ใน orientation แบบ Local ใน Object Mode ก็สามารถทำได้โดย R เพื่อเลือก Object จากนั้นกด G X X แล้วลากเมาส์เพื่อปรับระยะ หากกดเพียง G X จะย้งเป็นการย้ายตามแกน Global ส่วนการยกเว้นแกนก็สามารถทำได้ตามปรกติแต่กดแกนที่ต้องการจะล็อกเพิ่มเข้าไป เช่นหากต้องการปรับขนาดเฉพาะแกน Y และ Z ก็ทำได้โดย S X (ซึ่งที่จริงจะเป็นคีย์แกนไหนก็ได้) Shift + X (หมายถึงยกเว้นแกน X)
มีข้อสังเกตว่าเมื่ออยู่ใน 3D View การทำงานของ orientation แบบ Normal จะไม่แตกต่างกับแบบ Local ทั้งนี้ การอ้างอิงแกนแบบ Normal จะมีประโยชน์ใน Edit Mode ซึ่งจะมีค่า vertex normal อยู่ด้วย เช่นเมื่อเลือก face แกนของการเคลื่อนที่จะตรงกับค่าเฉลี่ยของ vertex normal ที่ประกอบขึ้นเป็น face นั้น หรือเมื่อเลือก vert เดียว ค่า vertex normal ของ vert นั้น ๆ ก็จะถูกนำมาใช้เป็น orientation โดยทิศทางที่ normal ชี้ไปจะเป็นทิศทางของแกน Z
การอ้างอิงตาราง grid[]
ผู้ใช้สามารถเลือกระหว่างการ transform ด้วย grid หรือ snap ด้วยการกดคีย์ Shift + Tab
- การปรับตำแหน่ง object ให้ตรงกับกริดตาราง Shift + S → Selection → Grid
- การกด Ctrl ระหว่างย้ายที่ object จะเป็นการล็อกตำแหน่งการย้ายให้ตรงกับ grid (ปรับเข้ากับระยะซูมโดยอัตโนมัติ)
- การกด Ctrl + Shift ระหว่างย้ายที่ object จะเป็นการล็อกตำแหน่งการย้ายให้ตรงกับ grid ย่อย
- การกด Ctrl ระหว่างหมุน object จะเป็นการล็อกการหมุนให้หมุนจังหวะละ 5°
- การกด Ctrl + Shift ระหว่างหมุน object จะเป็นการล็อกการหมุนให้หมุนจังหวะละ 1°
- การกด Ctrl ระหว่างปรับขนาด object จะเป็นการล็อกการปรับขนาดจังหวะละ 0.1 เท่า
- การกด Ctrl + Shift ระหว่างปรับขนาด object จะเป็นการล็อกการปรับขนาดจังหวะละ 0.01 เท่า
การกำหนดค่าตัวเลข[]
หลังจากกดคีย์ลัดเพื่อเข้าสู่โหมดการปรับเปลี่ยนขนาด ผู้ใช้อาจใช้การคีย์ค่าตัวเลขเพื่อกำหนดค่าอย่างแน่นอน ตัวอย่างเช่น G 1 Tab - 3 Tab 0 . 5 Enter จะหมายถึง สั่งย้ายวัตถุไปตามแนวแกน X Y Z เป็นระยะ 1, -3 และ 0.5 ตามลำดับ
หรือ R X 1 5 Enter คือการหมุนรอบจุดอ้างอิง (pivot) รอบแกน X เป็นมุม 15°
การอ้างอิง Pivot[]
pivot หมายถึงจุดที่ใช้ในการอ้างอิง เช่นเมื่อมีการหมุนหรือการปรับขนาด ผู้ใช้สามารถเลือกชนิดของ pivot ได้หลายชนิด ได้แก่ Active Object ( Alt + . ), Individual Centers ( Ctrl + . ), 3D Cursor ( . ), Median Point ( Shift + , ) และ Bounding Box Center ( , )
Active Object[]
Alt + . เป็นการใช้ active Object เป็น pivot เมื่อผู้ใช้เลือก object ใด object นั้นจะกลายเป็น active object แต่ทั้งนี้ผู้ใช้ก็สามารถเซ็ต object ให้ active โดยไม่จำเป็นต้องเลือก object ก็ได้ เช่นหากผู้ใช้ต้องการหมุน object A รอบๆ object B โดยไม่หมุน object B ไปด้วย ผู้ใช้ก็สามารถทำได้โดยการเลือก object A ก่อน (R) จากนั้นเซ็ตให้ object B active ด้วย Alt + Shift +R บน object B แล้วจึงทำการหมุน
Individual Centers[]
Ctrl + . เป็นการใช้ object center (จุดสีชมพู) ของแต่ละ object เป็นศูนย์กลางการหมุน เช่นเมื่อมีการเลือกสอง object ขึ้นไปแล้วทำการหมุน object แต่ละ object จะหมุนรอบ object center ของมันเอง ซึ่งทำให้ผู้ใช้สามารถหมุนหรือปรับขนาดของ object โดยไม่เปลี่ยนแปลงตำแหน่งเดิมของ object
3D Cursor[]
. ใช้ 3D Cursor เป็น pivot ซึ่งจะค่อนข้างทำได้อย่างอิสระเพราะไม่จำเป็นต้องมี object อื่นอ้างอิง การย้ายที่ 3D Cursor ทำได้โดยการกด L ลงในส่วนแสดงผลสามมิติของ 3D View หรือ อาจใช้เมนู Snap ( Shift + S ) เพื่อล็อก 3D Cursor เข้ากับ...
- Cursor → Selection สิ่งที่กำลังเลือก
- Cursor → Active ที่กำลัง active
- Cursor → Grid และกริดตาราง
ตามลำดับ ผู้ใช้ยังสามารถเปลี่ยนตำแหน่ง 3D Cursor ได้ด้วยการใช้พาเนล View Properties ( 3D View → View → View Properties... ) และ Shift + C เพื่อย้าย 3D Cursor ไปยังจุด 0,0,0
นอกจากใช้ 3D Cursor เป็น pivot ผู้ใช้ยังสามารถย้ายที่ object ไปยังตำแหน่งปัจจุบันของ 3D Cursor โดยใช้ Shift + S → Selection → Cursor
Median Point[]
Shift + , median point คือจุดศูนย์ถ่วงค่าน้ำหนักของ object ที่ถูกเลือกอยู่ โดยจะถือว่าน้ำหนักของทุก object ที่เลือกอยู่เท่ากันหมดและคิดจาก object center เท่านั้น ซึ่งหมายความว่าขนาดของ object จะไม่มีผลกับ median point
- สามารถ Shift + S → Selection → Center เพื่อย้ายตำแหน่งของสิ่งที่ถูกเลือกมารวมกันตรง median point
Bounding Box Center[]
, เช่นเดียวกับ median point, pivot แบบ bounding box center จะไม่คำนึงถึงขนาดของ object แต่จะมอง object เสมือนเป็น vert โดย bounding box จะเป็นขอบเขตทรงกล่องสี่เหลี่ยมที่ครอบคลุมตำแหน่ง object ของ object ที่ถูกเลือกทั้งหมด โดยทรงสี่เหลี่ยมนี้จะอิงรูปทรงกับแกน global (orientation)
การใช้ snap[]
ผู้ใช้สามารถเลือกระหว่างการ transform ด้วย grid หรือ snap ด้วยการกดคีย์ Shift + Tab
Object Mode[]
Edit Mode[]
การเลือกโหมดของการทำงานเป็น Edit Mode ใน 3D View
แก้ไขรายละเอียดภายในของ Object ถ้าอยู่ใน Object Mode ให้กด Tab และกดอีกครั้งเพื่อกลับสู่โหมดเดิม หรืออาจปรับจากตัวเลือกโหมดก็ได้
Sculpt Mode[]
จัดรูปทรงแบบคล้ายปั้นดิน
Sculpt Mode ช่วยให้ผู้ใช้สามารถจัดการกับรายละเอียดของ Mesh ได้ง่ายขึ้น โดยสามารถเข้าถึงความละเอียดได้หลายระดับ (Multi-Resolution) มี brush ให้เลือกใช้หลายแบบ ลักษณะการทำงานคล้ายกับซอฟต์แวร์ ZBrush หรือ Mudbox อย่างไรก็ตามในขณะนี้ระบบ Sculpt ของ Blender ยังทำงานได้ช้าหากจำนวน polygon สูงๆเมื่อเปรียบเทียบกับซอฟต์แวร์เฉพาะทางสองตัวที่กล่าวมา แต่ก็ยังช่วยจัดการงานที่ไม่ต้องการรายละเอียดสูงมากจริงๆได้ดี
ดูเพิ่ม (
FIXME)
Vertext Paint[]
ลงสี Vertex
Texture Paint[]
ลงสี Texture
Weight Paint[]
ลงน้ำหนักผิวกระดูก
Particle Mode[]
จัดการกับอนุภาค
Pose Mode[]
จัดท่า Armature